*** ถึงกำหนดการทำความดี ***
*** Donate Blood ***
เมื่อสองปีที่ผ่านมา ในวันคล้ายวันเกิด ในวันที่ 5 สิงหาคม.....วันนั้น..เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจไปบริจาคโลหิต......ที่สำนักงานกาชาด จังหวัดเชียงใหม่
ปกติเป็นคนที่กลัวการบริจาคโลหิต มาจนเกือบครึ่งชีวิต ทั้งนี้เป็นเพราะกลัวเลือด , กลัวเข็มฉีดยามากๆ และที่สามารถตัดความกลัว! ในครั้งนั้นออกไปได้บ้างนั่นคงเป็นเพราะว่า ต้องทนทุกข์กับ การเผชิญวิบากกรรม ที่ได้ทำไว้ ไม่ว่าชาติที่แล้ว หรือว่าในชาตินี้....ซึ่งได้ประสบกับตัวเองแล้วว่า มันเจ็บปวด ทางจิตใจมากเหลือเกิน ไม่รู้วันหายสักที ใช้ระยะเวลาชดใช้แสนยาวนาน....เมื่อได้นำความเจ็บปวดนั้นมาเทียบกับการใช้เข็มเจาะเลือดแล้ว...รู้ว่าการเจ็บตัวนั้นมันเพียงเล็กน้อย จากการที่ผิวหนังถูกเข็มทิ่มแทง ในชั่วขณะหนึ่ง ที่เหมือนถูกมดกัด มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ..ในเวลานี้..แล้วฉันยังได้ทำความดีเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้อื่นอีกด้วย
การบริจาคโลหิตในครั้งนี้ (ตามรูปด้านบน)เป็นครั้งที่ 5. บริจาคไป นัันโดยที่ไม่ได้หวังเพียงได้เข็มที่ระลึก หรือเข็มแสดงถึงเกียรติคุณใดๆ หวังอยู่บ้างเพียงแต่.....ให้เลือดของตัวเรานั้น ได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่น และเมื่อการทำความดีครั้งนี้แล้วก็ได้บังเกิดบุญกุศลขึ้น จึงตั้งจิตอธิษฐาน แผ่ส่วนบุญนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ..ในขณะที่กำลังนอนบริจาคโลหิตอยู่บนเตียง.. ด้วยว่า.........
"ขอแผ่บุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ ให้แก่ เจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลายของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเจ้ากรรม นายเวร อดีตชาติ หรือ ปัจจุบันชาติ บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกในบาป บุญคุณโทษแล้ว จึงได้มาทำความดี ในการบริจาคโลหิตในวันนี้ .....ขอให้ท่านจงมาอนุโมทนาบุญ และได้รับบุญกุศล ในครั้งนี้โดยทั่วกัน ให้ท่านจงมีบุญ บารมีสูงยิ่งๆขึ้นไป เพื่อจะได้อยู่ในภพ ในภูมิที่ดี และขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ณ บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไป........ฯลฯ "
หลังจากนั้น....มีความรู้สึกว่าใจของนั้นอิ่มเอิบ สบายใจ ตัวโล่ง เบา สบาย ...จากการได้ทำความดีในวันนี้ มาคิดดูแล้วว่า มันช่างน่าเสียดาย วัน เวลา ที่ผ่านพ้นมาเสียเหลือเกิน รู้อย่างนี้น่าจะทำความดี โดยการบริจาคโลหิต ให้เร็วกว่านี้
เสียดายที่ปล่อยให้เวลาสามสิบปีผ่านไปอย่างไร้ค่า ถ้าหากได้บริจาคโลหิตตามเวลาที่เสียไปนั้น เลือดของตัวเราคงจะได้ทำประโยชน์ ให้กับชีวิตคนอื่นๆได้อีกตั้งมากมาย เป็นร้อยๆชีวิตกันเลยทีเดียว มัวแต่คิดไปคิดกลัว !! ไม่เข้าเรื่อง
กว่าจะรู้ ! กว่าจะได้ทำประโยชน์ ! ก็เกือบจะสายเกินไปเสียแล้ว
การบริจาคโลหิต นี้ ไม่ใช่ว่า ใครนึกจะบริจาค วันไหน สภาพร่างกายอย่างไรก็ได้ ต้องมีคุณสมบัติของการบริจาคโลหิตด้วยนะ อาธิเช่น ต้องมีอายุ 17 ปี ถึง 60 ปี (ถ้าเป็นผู้บริจาค ครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี) มีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว, ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือติดยาเสพติด , สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร , ไม่มีการคลอดบุตร หรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม ขึ้นไป
การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต .....ต้อง นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมง ต่อเนื่อง , ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว ไม่กินยาแก้ปวด แก้อักเสบ , ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ มาก่อน อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาค, เลือดไม่ลอย และในวันที่ไปบริจาคโลหิตต้องทานอาหารหลักก่อนการบริจาคด้วย อาหารต้องไม่มีไขมันมาก เช่นข้าวมันไก่ หรือข้าวขาหมู เนื่องจากจะทำให้สีของพลาสมาผิดปกติ เป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้
มีบางคนที่เจอในที่บริจาค กำลังคิดจะมาบริจาคโลหิต แต่ก็ไม่สามารถบริจาคได้ ก็เพราะตัวเองนั้น ป่วยมีโรคหลายโรค บางทีหมอแนะนำให้ไปบริจาคโลหิต เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี สร้างเม็ดเลือดใหม่ แต่มันก็สายเกินไป ......ที่สภาพร่างกายไม่พร้อมที่จะให้เสียแล้ว ดูแล้วก็น่าสงสาร
ดังนั้น..จึงคิดว่าตัวเองยังโชคดีอยู่บ้าง ที่คิด และติดสินใจได้ทัน ไม่สายเกินไปทั้งนี้เป็นเพราะความทุกข์จากวิบากกรรมนี่เอง จึงได้เร่งเร้าให้ไปทำความดีให้มากๆ มากกว่ากรรมชั่วที่ได้เคยทำมา จึงได้คิดว่าในความไม่ดี ก็มีความดีแอบแฝงอยู่เสมอ เหมือนดั่งที่เขาว่า ในชีวิตคนเรา "เมื่อมีวิกฤติ ก็ย่อมมีโอกาส " นั่นเอง !
จึงได้ถ่ายทอด ความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ ....ให้ได้รับรู้กัน เพื่อจะได้รีบสร้างสมกรรมดี ทำความดี กันเสียแต่เนิ่นๆ ...ในขณะที่ยังมีโอกาสทำได้... ก่อนที่ทุกอย่าง
จะสายจนเกินไป ที่จะไม่มีโอกาสที่จะได้ทำความดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำความดี ด้วยการ ***บริจาคโลหิต*** นั้นดียิ่งนัก เพราะไม่ต้องใช้เงิน เพื่อไปใช้จ่าย ซื้อข้าวของ สำหรับไปทำความดี แต่อย่างใด เหมาะที่สุดกับคนที่กำลังประสบปัญหาการเงิน ...เพียงแค่ใช้ใจ " ทำความดีอันยิ่งใหญ่ "
เพื่อไปทำความดี ในการบริจาคโลหิต
คุณก็จะได้กับได้ด้วยความสุขที่เกิดขึ้นในใจอย่างมากมาย.