สูตรคลีนฟู้ด " ไข่ไก่+ไข่ผึ้ง กับผักออร์แกนิค "

อาหารคลีน <--->กินแค่พออิ่ม

สูตรคลีนฟู้ด

 " ไข่ไก่+ไข่ผึ้ง กับผักออร์แกนิค "

Recipe! Clean Food

"Egg+Bee egg with Organic Vegetable"

คิดสูตรอาหารคลีนกินเองและนำมาฝากเพื่อนๆ

ที่รักสุขภาพ ซึ่งได้แวะเวียนกันเข้ามา

อ่านบล็อกนี้นะคะ อาหารคลีนสูตรนี้กินแล้ว

เบาสบายท้อง และยังเป็นการรวมวิตามิน 

โปรตีน เกลือแร่ ที่จำเป็นต่อร่างกายเข้ามารวม

อยู่ในจานเดียว วิธีทำก็แสนง่าย! 

สามารถทำกินเองเป็นอาหารเช้าเบาๆ

 โดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 เป็นอาหารสะอาดจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่ใส่

เครื่่องปรุงรสใดๆ ดังนั้นจึงเป็นอาหารสะอาด 

ที่มีรสชาติอร่อย จากส่วนประกอบอาหารที่สด

กินกะผักออร์แกนิค ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพสุดๆ

ชมวิธีการทำอาหารคลีน

สูตร " ไข่ไก่+ไข่ผึ้ง กับผักออร์แกนิค "

ด้วยคลิปวิดีโอนี้ค่ะ

(English Subtitle)

https://www.youtube.com/watch?v=9bdME3Bd3uo

มีส่วนประกอบดังนี้คือ :-

ไข่ไก่ 2 ฟอง /  2 Eggs 

รังไข่อ่อนผึ้งครึ่งถ้วยตวง / 3 tbs. Bee egg

เกลือป่น  ครึ่งช้อนชา / 1/2 tsp. Salt 

  พริกไทยป่น ครึ่งช้อนชา / 1/2 tsp. Pepper 

ผักออร์แกนิค / Organic Vegetable 

วิธีทำอาหารคลีนฟู้ด

นำไข่ไก่มาตอกใส่ถ้วยเล็ก เติมเกลือป่น 

และพริกไทยลงไปผสมและตีให้เข้ากัน

แกะไข่อ่อนผึ้งและตัด รังไข่อ่อนผึ้งออกเป็นชิ้นเล็กๆ 

นำลงไปผสมกับส่วนผสมของไข่ไก่

แล้วตักใส่ในถ้วยเซรามิคจิ๋ว (ที่ทำขนมถ้วย) 

จนเกือบจะเต็มถ้วย

แล้วนำไปนึ่งในซึ้งนึ่ง ประมาณ 15 นาที 

ส่วนผสมไข่ก็จะสุกพองเต็มถ้วย พักไว้ให้เย็น

จัดผักสดออร์แกนิค(ที่ล้างจนสะอาดดีแล้ว)วางด้านข้างจาน

ใช้ช้อนตักไข่ออกจากถ้วยแล้วนำมาวางลง

ในจานผักออร์แกนิคที่เตรียมไว้

*** พร้อมเสิร์พคลีนฟู้ด ***

ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับอาหารคลีนสูตรนี้ค่ะ

พร้อมกินกันอย่างสบายใจ กับอาหารสะอาดๆ 

*มีความสดอร่อย! ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติจริงๆ*

เคล็ดไม่ลับของรังผึ้ง

มีสารสกัดเด็ด! ชื่อว่า "พรอพโพริส"  Propolis

สรรพคุณ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี 

และยังช่วยต้านโรคที่เกิดจาก

อนุมูลอิสระได้แก่ โรคหัวใจ , เบาหวาน , ต้อกระจก , 

โรคหึดหอบ , โรคหลอดลมอักเสบ,

โรคเกี่ยวกับระบบประสาท และโรคมะเร็ง

เคล็ดลับดีๆ ของ ข.ไข่

ไข่ มีประโยชน์มากมาย มีวิตามินบี วิตามินซี 

วิตามินอี วิตามินเค 

เปปไทด์ในไข่ ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

ไข่มีโปรตีนดีเยี่ยม ในไข่ไก่ 1 ฟอง มีโปรตีน 6 กรัม

การทำ-วิธีใช้ " น้ำมันมะพร้าว " ในการบำรุงผมของผู้หญิงโบราณล้านนาในอดีต

สตรีโบราณล้านนาในอดีต

เมื่อ 50 ปีที่แล้ว !

การทำและวิธีใช้ " น้ำมันมะพร้าว " บำรุงผม 

การเกล้าผมมวย ของสตรีโบราณล้านนาในอดีต

ขอบคุณรูปภาพจากเวป sites google.com

ขอย้อนไปอดีตพอจะจำได้ว่าได้ช่วยแม่อุ้ย ขูดมะพร้าวด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว

มันยากและเหนื่อยพอสมควรสำหรับเด็กๆ กว่าจะขูดมะพร้าวเสร็จลูกหนึ่ง 

มือก็พลาดไปโดนคมกระต่ายขูดมะพร้าว ทำให้ได้แผลเลือดออกซิบๆไปเหมือนกัน

ขอบคุณรูปจาก development of Thai dessert tools

การทำน้ำมันมะพร้าว *แบบโบราณ*

เมื่อได้มะพร้าวขูดแล้ว แม่อุ้ยก็จะนำไปเคี้ยวในกระทะ การเคี้ยวต้องใช้ไฟอ่อนๆ

 เคี้ยวไปจนมะพร้าวขูดแห้งนั้นแห้งเหลือง และมีน้ำมันออกมา มีกลิ่นมะพร้าวคั่ว

หอมตลบอบอวลไปทั้วบ้าน ก็จะได้น้ำมันมะพร้าวเหลืออยู่ตรงก้นกระทะ มีสีเหลืองส้มอ่อนๆ

กลิ่นมะพร้าวเคี้ยวนั้นหอมชวนน่ากิน..จนเราแอบหยิบใส่ปากถึงรู้ว่าไม่ได้มีรสชาติอะไร

พอน้ำมันมะพร้าวเย็นตัวลงแล้ว แม่อุ้ยก็จะนำมากรอกใส่ขวดเล็กๆไว้ แล้วก็จะหยิบ

ออกมาใช้ทาผมหลังสระอยู่เป็นประจำ ผมก็จะมีสีดำขลับมีเงาสวยและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

วิธีใช้น้ำมันมะพร้าว-ในการบำรุงเส้นผม

เราจะเห็นจนชินตาว่า แม่อุ้ยจะสระผมยาวๆให้สะอาดก่อน เสร็จแล้วก็จะหวีเช็ดผมให้แห้ง

พอหมาดๆแล้วต่อมาก็จะเทน้ำมันมะพร้าวออกจากขวดเล็กลงไปบนฝ่ามือเล็กน้อย

ใช้ชะโลมลูบไล้เส้นผมด้วยน้ำมันมะพร้าว(ที่เคี้ยวเองมากับมือ) สางผมและหวีเบาๆจนทั่ว

ปิ่นหรือหย่องเงิน เสียบมวยผม

ขอบคุณรูปจาก dandinth.com 

 เมื่อผมแห้งแล้ว ก็จะรวบเกล้ามวยผมเป็นก้อนกลมเล็กๆไว้กลางหัว ใช้ที่ยึดผม 

ซึ่งคนล้านนาเรียกกันว่า "หย่องเสียบผม" ลักษณะหย่องเสียบมวยผมของแม่อุ้ย เป็นแบบธรรมดาๆ คล้ายๆลวดเหล็กเส้นเล็กๆ แบบกิ๊ปดำติดผม  เป็นรูปตัวยูสีดำ(ตัวยูคล้ายรูปด้านบน)

ก็จะเสียบหย่องไปตรงฐานมวยผม ดันหย่องรูปตัวยูเข้าไปจนสุด เพื่อยึดมวยผมไว้

{ ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า...!! }

ผู้หญิงล้านนาโบราณโดยทั่วไปได้รู้จักดูแลบำรุงรักษา

เส้นผมให้ดำ มีเงางามด้วย....." น้ำมันมะพร้าว " 

โดยรู้ถึงประโยชน์ และ สรรพคุณ รวมถึง

รู้วิธีการ! ทำน้ำมันมะพร้าวมาใช้กันเองภายในครอบครัว

แบบง่ายๆ คงเป็นการทำสืบต่อกันมา...ตั้งแต่โบราณกาล !!

ไขข้อสงสัย ! "ฟิตเนส @ ยิมคลับ" เหมือน / ต่างกัน...อย่างไร !?

ฟิตเนส กับ ยิม

!?!?!?!

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก....NOVOTEL Bangkok Platinum Pratunam

ย้อนคิดถึงวันก่อน

ได้ไปส่งลูกสาวทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย เราได้สนทนากันในรถ

เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และเค้าอยากจะเน้นให้ร่างกายมีกำลังแข็งแรงขึ้น

จึงมีคำถามขึ้นมาว่า..แล้วเราควรจะไปสถานที่ออกกำลังแบบ "ฟิตเนส" หรือ "ยิม"

ถึงจะดี..ความเข้าใจในเบื้องต้น คิดว่ายิมคงเป็นสถานที่เพาะกาย, เน้นไปทาง 

Weight Training  น่าจะเข้ายิมน่าจะเหมาะกว่าเข้าฟิตเนส

จึงแนะนำให้เข้าไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ทดูถึงความหมายของคำว่า "ฟิตเนส กับ ยิมคลับ" 

เพื่อค้นหาคำตอบที่ชัดเจนและไขข้อสงสัยกันซะทีหนึ่ง ก่อนอื่นก็ต้องดูความหมาย

กันก่อน พิมพ์คำค้นหาว่า ฟิตเนส หมายถึง....

ฟิตเนส

คำนาม

1. ศูนย์ออกกำลังกายในอาคารซึ่งรวมบริการต่าง ๆ ไว้ครบครัน
2. เช่น โรงยิม สระว่ายน้ำ ห้องอบเซานา ห้องเต้นแอโรบิก, ย่อมาจากฟิตเนสเซนเตอร์.

Fitness คำแปลเป็นภาษาไทย คือ การออกกำลังกาย

1. 
   
2. 
   

พิมพ์คำค้นหาต่อมา...ยิม หมายถึง.....

Gym 

[abbr.] โรงพลศึกษา โรงกีฬา, โรงกายกรรม 

[syn.] gymnasium

[abbr.] โรงพลศึกษา โรงกีฬา, โรงกายกรรม 

[syn.] gymnasium

มีความเหมือนกันคือ เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกาย 

มีอุปกรณ์และเครื่องเล่นต่างๆครบครัน ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง จักรยานไฟฟ้า แอร์วอล์ค สเตปเปอร์ เครื่องเล่นเวทเทรนนิ่ง ดัมเบลขนาดต่างๆ รวมถึงมีคลาสออกกำลังกายหลากหลายคลาส ที่คุณสามารถเลือกเข้าร่วมได้ตามความชอบ มีลักษณะเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและต้องการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ หรือเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกายตามสถานที่ ภายนอกทั่วๆ ไป

ส่วนความแตกต่างของฟิตเนสและยิม 

ก็คงมีความแตกต่างเล็กน้อย และเป็นเรื่องความเข้าใจของคนไทยกันเองนี่แหล่ะ ที่จะแบ่งแยกถึงความแตกต่าง ระหว่างการเข้าฟิตเนส กับการเข้ายิมไว้ตามนี้ค่ะ

การบริการฟิตเนส

ฟิตเนสนั้นมักจะมีรูปแบบของความเป็นธุรกิจมากกว่า คือมีการสมัครสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม มีค่าใช้จ่ายที่แน่นอนซึ่งอาจจะสูงหรือต่ำแล้วแต่แบรนด์ของฟิตเนสนั้นๆ นอกจากนี้ยังมีบริการเทรนเนอร์หรือครูฝึกส่วนตัวให้คุณได้จ้างเพื่อใช้บริการคำแนะนำที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณเองอีกด้วย 

หากเราเลือกเข้าฟิตเนสเราจะได้รับการบริการที่มีระดับมากขึ้น มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น เนื่องจากเราคือลูกค้าที่จ่ายค่าสมาชิกทั้งแบบรายเดือนหรือรายปี นอกจากนี้ยังมีบริการเทรนเนอร์ฝึกส่วนตัว  Personal trainer ไว้ให้บริการเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือเป็นแพ๊คเกจก็ได้ นอกจากนี้ฟิตเนสยังมีคลาสออกกำลังกายมากมายให้ได้เลือกเข้าร่วม  รวมถึงอาจจะมีห้องอาบน้ำ และซาวน่าให้บริการอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร

ขอบคุณรูป Indy Gym

การบริการยิมคลับ

ส่วนยิมคลับนั้นมักจะเป็นที่สำหรับนักกีฬาอาชีพ หรือสถานที่ออกกำลังกายที่มุ่งเน้นเฉพาะการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงไปเลยโดยที่ไม่เน้นความเป็นธุรกิจมากนัก เช่น ยิมคลับตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เปิดให้นักศึกษาได้เล่นฟรี หรือสถานที่บริการยิมบางแห่งที่อาจจะเก็บค่าสมาชิกในราคาถูกมากกว่าศูนย์ฟิตเนส

 มีอุปกรณ์ที่ครบครันเช่นกัน แต่คลาสที่ให้เลือกเข้าก็อาจจะมีจำกัด หรือหากเป็นยิมคลับขนาดเล็กก็ไม่มีคลาสเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการออกกำลังกายบนเครื่องเล่นทั่วไป ยิมคลับมักจะมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือมีล็อกเกอร์รูมให้บริการ แก่ผู้มาใช้บริการในยิม

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก...Novotel Bangkok Platinum Pratunam, Bangkok Picture: Gym 

สรุป "ฟิตเนส @ ยิมคลับ"

มีความแตกต่างก็เพียงแค่ รูปแบบการให้บริการเท่านั้นเอง   เมื่อมีความต้องการจะไปใช้บริการสถานที่ออกกำลังกาย ก็เพียงแต่พิจารณาว่าสะดวกไปออกกำลังกายกันที่ไหน ต้องการการรับบริการแบบใด ก็สามารถเลือกใช้บริการฟิตเนสหรือยิมคลับตามที่คุณชื่นชอบได้เลยค่ะ 

มารู้จักกับ "อาหารคลีน / อาหารพลังงานสะอาด" Clean Foods

เทรนยอดฮิต! "กินคลีน"

เรามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 

อาหารคลีน/อาหารพลังงานสะอาด

Clean Foods คืออะไร...เกี่ยวกับ 

และมีประโยชน์อย่างไรกันบ้าง !?

 โดยทั่วไปปกติการดูแลรูปร่างจะใช้การควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับ

ในแต่ละวัน ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริง! แม้ในอาหารที่มีแคลอรี่เท่ากัน

 แต่อาจทำให้อ้วนได้ต่างกัน เพราะอาหารที่มาจากพลังงานไม่ดี / พลังงานสกปรก

จะเผาผลาญได้ไม่ดีเท่ากับอาหารที่มาจากพลังงานสะอาด

อาหารพลังงานสะอาด คือ

อาหารที่กินแล้วร่างกายสามารถนำไปเผาผลาญได้มาก สะสมในร่างกายน้อย

ซึ่งพลังงานสกปรก ที่ร่างกายมักเก็บสะสมมากกว่าเผาผลาญเป็นพลังงาน ทำให้ไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่โรคอ้วน และยังก่อให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินและกระตุ้นการอักเสบ เมื่อรางกายดื้ออินซูลินแล้ว จะเร่งการสะสมไขมัน ทำให้อ้วนขึ้นอีก ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเฉียบพลัน และโรคเรื้อรังต่างๆ อันได้แก่ โรคเบาหวาน มะเร็ง ความดันโลหิตสูง 

โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต ภูมิคุ้มกันต่ำ ข้อเสื่อม สมองเสื่อม เป็นต้น

แนวทางโภชนาการ "พลังงานสะอาด"

ตามหลักการของ Deep Marine Whey คือ

การบริโภคอาหารพลังงานสะอาดคุณภาพสูง ในปริมาณที่พอเหมาะ 

ร่วมกับการออกกำลังกาย เพื่อเป็นการลดและควบคุมน้ำหนัก 

พร้อมทั้งสร้างสุขภาพความงาม ความอ่อนเยาว์

 รวมทั้งบำบัดโรค เสริมสุขภาพดีเพื่อคนทุกเพศทุกวัย

แหล่งของอาหารพลังงานสะอาด

* คาร์โบไฮเดรตที่ดี * Good Carbohydrate

ได้แก่ อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ใยอาหารสูง เช่น ธัญพืชที่ไม่ขัดสีหลากหลายสายพันธุ์

* โปรตีนคุณภาพชั้นเลิศ* High Quality Protein

ได้แก่ อาหารที่มีกรดอะมิโน จำเป็นครบถ้วน มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกายได้ดี เช่น เวย์โปรตีนเข้มข้น คอลลาเจนจากปลาทะเล

* ไขมันที่มีประโยชน์* Healthy Fat

ได้แก่ อาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำมาก มีโอเมก้า 9 ปริมาณสูง และมีโอเมก้า 3 และ 6 

ในสัดส่วนที่สมดุลกัน เช่น น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว

 อาหารพลังงานสะอาดมีหลักการทำงานดังนี้

- ช่วยในการลดบทบาทของอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสมตลอดวัน

- ลดการสร้างและสะสมไขมัน เพิ่มการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน สลายมวลไขมัน

- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

- ลดระดับ LDL และ Triglyceride หรือไขมันชนิดไม่ดีในเลือด

- เพิ่มระดับ HDL หรือไขมันชนิดดีในเลือด

- เสริมสร้างซ่อมแซมร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

-  เพิ่มการสร้างกลูตาไธโอน ซึ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใส

- อีกทั้งยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายอีกด้วย

ดังนั้น การกินอาหารคลีน / อาหารพลังงานสะอาด 

ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เพื่อช่วยในการ

ลดและควบคุมน้ำหนัก พร้อมทั้งสร้างสุขภาพที่ดี 

ให้ความงาม ความอ่อนเยาว์ รวมทั้งบำบัดโรค

และเสริมสุขภาพให้กับคนทุกเพศทุกวัย

ได้เป็นอย่างดียิ่ง.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Health News Giffarine และ  Deep Marine Whey

ขอบคุณรูปภาพอาหารคลีนจากเวป : Kapook

By *Cozy Health* Blogger

สุดยอด !! รังไหมทองขัดผิว I Spa with Silk Cocoon

สุดยอด !! รังไหมทองขัดผิว

The Ultimate ! 

Scrub skin the face with Thai silk cocoon.

วันนี้จะมาแนะนำ " รังไหมทอง " เพื่อผิวหน้าที่เนียนนุ่มกระจ่างขาวใส 

และผิวกายอันเปล่งปลั่ง น่าสัมผัส ผิวนุ่มแลดูอ่อนเยาว์  รังไหมไทย มีสีเหลือง สามารถ

ดูแลผิวจากธรรมชาติ ไร้สารเคมี เพื่อผิวหน้าและผิวกาย รังไหมอุดมไปด้วยคุณค่าของ
โปรตีนไหม นั่นคือสุดยอดพลัง!,,,,," เซราซิน " 

ชมวิธีขัดหน้าด้วยรังไหม

ด้วยคลิปวิดีโอนี้ค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=zqbAH1yBVvs

 วิธีใช้รังไหมขัดผิวหน้าด้วยวิธีแสนง่าย

เพื่อให้ผิวหน้าสะอาดเนียนนุ่ม และอ่อนละมุน

* แช่รังไหม 4-5 ชิ้น ในน้ำอุ่น เพียง 1 นาที รังไหมก็จะนิ่ม 

หยิบใช้นวดหน้าได้ตลอดเวลาที่ต้องการ หรือนวดหน้าไปพร้อมๆกับขั้นตอนการ
ล้างหน้าปกติในตอนเช้า และตอนเย็นได้

เพื่อผิวพรรณอันเปล่งปลั่ง

* ล้างรังไหมด้วยน้ำสะอาด หลังจากนั้นแช่รังไหมในอ่างอาบน้ำอุ่น 

และแช่ผิวกายประมาณ 10 - 15 นาที  เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และหมองคล้ำ

ใข้รังไหมนุ่มๆ ขัดขจัดเซลล์ผิวออกไป ขัดตามร่างกาย โดยใช้ไหมทองขัดผิววนเป็นวงกลม

ขัดไปทั่วร่างการ หรือขัดผิวในส่วนตามที่ต้องการ  ในบริเวณผิวที่แห้งและหยาบกร้าน

เช่น ข้อศอก, ใต้ข้อพับ และเข่า ก็จะขจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป 

และสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาค่ะ

สูครวิธีทำง่ายๆ " น้ำเต้าหู้งาดำ " สำหรับวัยทอง

" น้ำเต้าหู้งาดำ "

ช่วยบรรเทาอาการหมดประจำเดือน

การวิจัยในผู้หญิงวัยทองพบว่า

ผู้ที่กินอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองและเมล็ดแฟลกซ์

ช่วยบรรเทาอาการหมดประจำเดือน ช่องคลอดแห้งได้

ภาวะกระดูกพรุน

ถั่วเหลืองและงาดำ มีแคลเซียมสูง นิยมบริโภคควบคู่กัน

เพื่อให้โปรตีนที่จำเป็นสำหรับร่างกายครบถ้วน

*สูตรวัยทองน้ำเต้าหู้งาดำ*

ชมวิธีทำน้ำเต้าหู้งาดำ

ด้วยคลิปวิดีโอนี้ค่ะ

น้ำเต้าหู้งาดำ 

ที่มีส่วนผสมจากถั่วเหลืองและงาดำ 

จึงมีประโยชน์มากมายคับแก้ว

ถั่วเหลือง" (Soybean)  มีสารอาหารครบถ้วน

ทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้มีผิวพรรณผ่องใสอีกด้วย

ประโยชน์จากโอเมก้าในถั่วเหลือง สามารถช่วยบำรุงสมองและเซลล์ประสาท

งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินอี มีแคลเซียมสูง

งาดำขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียมมีมากกว่านมถึง 6 เท่า 
นอกจากนี้ก็ยังมีสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก จึงเหมากับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน 

ขณะที่วิตามินอีที่อยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น หากรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย 
ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลยค่ะ


 น้ำเต้าหู้งาดำ 

ที่มีส่วนผสมจากถั่วเหลืองและงาดำ 

จึงมีประโยชน์มากมายคับแก้ว

ถั่วเหลือง" (Soybean)  มีสารอาหารครบถ้วน

ทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้มีผิวพรรณผ่องใสอีกด้วย

ประโยชน์จากโอเมก้าในถั่วเหลือง สามารถช่วยบำรุงสมองและเซลล์ประสาท

สูตรสมุนไพร(ว่านไพล)+วิธีขัดตัวให้ผิวเนียนสวย..สดชื่นผ่อนคลาย Spa body scrub with mixer Phlai herb.

ให้สูตรขัดตัวสมุนไพร

 (ว่านไพล) 

ชมวิธีขัดตัว
สูตรสมุนไพรส่วนผสมของ"ว่านไพล"
โดยคลิปวิดีโอนี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=eX1-sXnZ444
(English Subtitle)

Spa body scrub with mixer herbs.

ขัดตัวสปาในวันหยุดพักผ่อน

วันหยุดเมื่อมีเวลาควรดูแลสุขภาพผิวกายกันซะหน่อย พักผ่อนนอนเล่นอยู่กับบ้านเฉยๆ
ไปเปล่าๆให้เสียเวลากันทำไม! การขัดนวดตัวด้วยสมุนไพรไทย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้
ผิวของเราได้รับการพักผ่อน และเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้ด้วย
ซึ่งวิธีการขัดผิวจะเป็นการทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งกว่าการอาบน้ำปกติธรรมดา อีกทั้ง
ร่างกายจิตใจของเราก็ยังได้รับการผ่อนคลายด้วยการสูดกลิ่นหอมๆจากสมุนไพรอีกด้วย

ให้สูตรขัดตัวสมุนไพรไทย

{ว่านไพล+น้ำนม+เกลือขัด+น้ำแร่} 

ไพล หรือทางภาคเหนือเรียกว่า "ปูเลย"
เป็นสมุนไพรยอดฮิตสำหรับสถานบริการความงามและสปา
Phlai herb for massage and spa health benefit beauty
เนื่องด้วยไพลมีสรรพคุณรักษาผิว ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสนั่นเอง
ไพล มีดอกสีเหลืองนวล ดอกมีลักษณะเป็นช่อรูปกรวย

มีผลขนาดเล็กลักษณะเป็นก้อนกลม แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่ส่วนเหง้าซึ่งมีเปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง ส่วนเนื้อในมีสีเหลืองแกมเขียว มีกลิ่นเฉพาะและเป็นส่วนที่เราสามารถนำมาทำแป้งขัดผิวช่วยทำให้ผิวผุดผ่องเป็นยองใย ลบริ้วรอยจุดด่างดำ และทำให้ไม่เกิดสิว ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระได้อีกด้วย

สูตรสมุนไพรจากว่านไพล

มีส่วนผสม 
(ส่วนผสมนี้ใช้ประมาณกับแขนข้างหนึ่ง) 

ผงสมุนไพรว่านไพล  1  ช้อนโต๊ะ
นมสด / นมจืด 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือขัดน้ำแร่น้ำนม  1 ช้อนโต๊ะ

***คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน***

ปล. : ) หากต้องการใช้ในการขัดตัวก็ให้เพิ่มจำนวนส่วนผสมให้มากขึ้น 
พอดีกับการใช้ขัดผิวให้ได้ทั่วทั้งตัว พิจารณาตามลักษณะรูปร่างผิวกายของแต่ละบุคคล
กะประมาณให้พอดีเอาก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไม่เหลือทิ้งเสียดายของ ก็เท่านั้นเองค่ะ

วิธีขัดตัว

ก่อนขัดผิวให้ล้างผิวบริเวณที่จะขัดด้วยน้ำสะอาดก่อนนะคะ

วิธีขัดผิวให้ใช้ปลายนิ้ว 3 นิ้ว ป้ายเอาส่วนผสมของสมุนไพรมาขัดผิว วนเป็นลักษณะก้นหอยหรือวนตามเข็มนาฬิกา ลงน้ำหนักนิ้วเพียงเล็กน้อย ระหว่างขัดผิวหากส่วนผสมสมุนไพรแห้ง

รู้สึกไม่ลื่นนิ้ว ก็ให้ป้ายเอาน้ำนมลงไปผสมขัดผิวด้วย ก็จะทำให้การขัดผิวได้ลื่นสบาย

เน้นลงน้ำหนักการขัดมากขึ้นในบริเวณข้อศอก/เข่า/ตามรอยพับต่างๆที่หนามีสีผิวคล้ำหมอง 

และให้ใช้เวลาขัดนานขึ้น  เมื่อได้ขัดผิวได้ทั่วผิวตามที่เราต้องการแล้ว ให้ใช้น้ำสะอาดล้าง 

หรือในกรณีที่ขัดตัวก็ให้อาบน้ำ เพื่อล้างสมุนไพรที่ผิวออกให้สะอาด

ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับการขัดตัวด้วยสมุนไพร จากส่วนผสมของว่านไพลค่ะ

ให้ผิวเนียนสวย รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย

หลังจากการขัดผิวด้วยสมุนไพร สูตรส่วนผสมของว่านไพลดังกล่าวแล้ว 
เราจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ รู้สึกถึงความเบาสบายเนื้อ 
สบายตัวขึ้น  และเมื่อได้สัมผัสลูบไล้ผิวที่ขัดแล้ว ก็จะรู้สึกถึงความนุ่มลื่นผิว
แลดูผิวขาวเนียนเปล่งปลั่งสดใสสวยงามขึ้นในทันทีทันใดเลยค่ะ!!

11 วิธีแสนง่าย ถนอมและบำรุงดวงตาให้สดใสอยู่เสมอ

ดวงตาคู่นี้ได้ใช้มาอย่างยาวนาน

*~~~~~~~~~~***~~~~*****

ตั้งแต่เริ่มลืมตาดูโลกใบนี้มา...จนถึงทุกวันนี้ก็เข้าสู่วัยผู้สูงอายุแล้ว

แม้จะใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆ หลังเกษียณอายุราชการมาแล้วหลายปี แต่ดวงตาคู่นี้ก็ยังคงได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน ด้วยความที่เป็นคนมีงานอดิเรกที่รัก ที่ต้องทำอยู่ทุกๆวัน สายตาต้องจ้องมองตัวอักษร รูปภาพต่างๆ ในคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ จนกระทั่งดวงตามันประท้วงเจ้าของ (เมื่อไม่นานมานี้) รู้สึกถึงอาการตาเป็นเส้นวิ้งๆ เส้นใสๆเหมือนฟ้าแลบ ต่อมาก็เตือนด้วยการมองภาพพร่ามัวไม่ชัด จนระยะหลังๆ ก็เพิ่มตาแห้งแสบตา จนน้ำตาไหล จึงได้รู้ว่าตัวเองได้ใช้งานดวงตาหนักเกินไปแล้ว......

เมื่อถึงเวลาที่ต้องถนอมและบำรุงรักษาดวงตา

ในเวลานี้ได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของดวงตาแล้ว เมื่อวันที่เกือบจะสายเกินแก้ เนื่องจากการที่ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจดูแลสายตาตัวเอง มองข้ามความสำคัญที่สุดของชีวิตตอนนี้ไป จึงอยากจะเขียนเตือนคนรอบข้าง และคนที่ผ่านเข้ามาและมีความสนใจอ่านบล็อกนี้ทุกคนว่า "ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ" ของเรามากที่สุดอีกส่วนหนึ่งของชีวิต โปรดอย่ามองข้าม กลับมาสนใจถนอมสายตา ป้องกันดูแลดวงตาคู่สวยของคุณกันแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีดวงตาที่แจ่มใส สามารถใช้งานเป็นอย่างดีไปได้นานแสนนาน

มาดูวิธีการถนอมและบำรุงดวงตา

11. วิธีแสนง่าย 

วิธีถนอมและบำรุงรักษาดวงตาให้สดใสอยู่เสมอ

1. หัวใจหลักของการดูแลสุขภาพตา สิ่งแรกต้องเป็นการไม่ใช้ดวงตาจนเกินขอบเขต  ไม่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่อ่านหนังสือในที่มีแสงน้อย และ ไม่ควรจ้องจอหรือใช้โทรศัพท์มือถือ ในเวลานอนตอนกลางคืน 2. กินอาหารที่มีวิตามินเอเป็นส่วนประกอบอย่าง ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง  ตำลึง แครอท  คะน้า ฟักทอง รวมทั้ง เบต้าแคโรทีนที่ได้จากผักสีส้ม สีเหลือง เหล่านี้  ที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี และผลไม้ตะกูลเบอรี่ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ  เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อดวงตาที่จะช่วยในเรื่องรักษาบำรุงดวงตาไม่ให้เสื่อมสภาพไว  3. สวมเเว่นกันเเดด เมื่อออกไปในบริเวณที่มีแสงแดดจ้าในเวลากลางวัน  เพื่อช่วยในการกรองแสงและถนอมสายตาได้เป็นอย่างดี  ติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้า หรือฟิล์มลดแสงสะท้อน ที่จอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือของเรา  4. ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ควรสวมหมวกนิรภัย (หมวกกันน็อค) เพื่อความปลอดถภัย และช่วยกันลม และกันฝุ่นเข้าดวงตาได้เป็นอย่างดี  5.  แก้อาการตาบวม ด้วยช้อนสะอาดเเช่ตู้เย็นจนเย็นเฉียบมาประคบที่เปลือกตาเบาๆ  หรือใช้ถุงชาที่ชงดื่มแล้ว นำมาประคบบนเปลือกตา ก็จะช่วยให้ลดอาการบวมบรรเทาลง

6. ควรหลีกเลี่ยงการใช้มือขยี้ดวงตา อาจเกิดการติดเชื้อและเกิดอาการตาอักเสบได้  หากเกิดการระคายเคืองตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้าง หรือใช้น้ำยาล้างตาจากเภสัชกร  7. การใช้สายตาในการอ่านสือต่อเนื่องกันเป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้ตาเกิด อาการล้าได้ ถ้าเลือกได้ควรเลือกอ่านจากกระดาษที่มีสีเหลืองอ่อนๆ สีนวลๆ  จะช่วยลดแสงสะท้อนได้ดีกว่าการใช้กระดาษที่มีสีขาว  8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น  มีสุขภาพดีแข็งแรง รวมทั้งดวงตาของเราก็จะได้รับการพักผ่อนไปด้วย  9. ทริค!  แนะนำการบริหารดวงตา และกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา ด้วยการหลับตาลงและลืมตาขึ้น ตามลมหายใจช้าๆ ประมาณสิบยี่สิบครั้ง ในบางช่วงเวลา  เพื่อจะทำให้น้ำมาหล่อเลี้ยงดวงตาได้ดี ตาชุ่มชื่น ไม่เกิดอาการแสบตาเคืองตา

 10. ควรพักสายตาอยู่เป็นระยะๆ เช่น หากมองจอคอมพิวเตอร์ ก็หันมองทางอื่นบ้าง 

หรืออ่านหนังสืออยู่ ก็หลับตาพักสายตาบ้าง  ละจากการเพ่งมองเฉพาะจุด

ด้วยการทอดสายตามองไปไกลๆ ดูต้นไม้ใบหญ้า หรือสิ่งที่เป็นสีเขียวจากธรรมชาติ

 11. หาวิตามินเอ ผลิตภัณฑ์ที่บำรุงสายตา มาช่วยเสริมอาหาร ซึ่งจำเป็นต้องคัดสรร

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ที่มีคุณภาพและมีเครื่องหมาย อย. รับประกันมาใช้ 

เพื่อบำรุงสายตาอย่างต่อเนื่อง  ให้หลีกเลี่ยงการใช้คอนแท็กเลนส์ ที่ไม่มี อย. 

เพราะอาจเป็นอันตรายต่อดวงตา ที่อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตาบอดได้